วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน     เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ที่ไม่สามารถผลิตหรือหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน  ออกมาให้เพียงพอที่จะเปลี่นยน้ำตาลที่ร่างกายได้รับจากอาหารพวกแป้งไขมันและโปรตีนให้เกิดเป็นพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหวและการทำงานของอวัยวะต่างๆ  ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าปกติ  ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลสูงมากขึ้นจนเกิดความสามารถของไตที่จะกักเก็บเอาไว้ได้แล้วน้ำตาลส่วนเกินก็จะถูกขับออกมาในปัสสาวะ  ทำให้ปัสสาวะหวานเนื่องจากมีน้ำตาลอยู่ด้วย  เราเรียกโรคนี้ว่าโรคเบาหวาน


              โรคเบาหวานนี้เป็นโรคเรื้อรัง  ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้ โดยไม่ได้รักษาที่ถูกต้องและต่อเนื่อง  มักเกิดอัตรายจากโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง  โดยอาจเกิดความพิการต่ออวัยวะต่างๆ  ของร่างกายได้  ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องรู้จักควบคุมรักษาเบาหวานให้ดีตั้งแต่เมื่อรู้ว่าเป็นและต่อเนื่องตลอดไป


สาเหตุ

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวานมีหลายอย่างด้วยกัน   ซึ่งสาเหตุบางอย่างอาจช่วยส่งเสริมให้เกิดการแสดงผลของโรคเบาหวานได้เร็วขึ้น  สาเหตุและสิ่งส่งเสริมให้เกิดเบาหวานได้แก่






         1.  กรรมพันธุ์  - ลูกหลานของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคนี้

         2.  ความอ้วน พบว่า 60-80 % ของผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นคนอ้วน

         3.  อายุมากขึ้น   โรคเบาหวานมักเป็นกับคนที่อายุเกิน40 ปี ขึ้นไป

         4.  ความเครียด  ทำให้โรคเบาหวานแสดงออกมา

         5.   เชื้อไวรัส    ทำลายเซลล์ของตับอ่อนที่มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน

        6.   ยาบางชนิด  เช่น ยาพวกสเตียรอยด์  ไพริคนิโซโลน  ถ้าใช้นานอาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน

        7.   การตั้งครรภ์  ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลายๆ  ครั้งมีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ง่าย

        8.   พิษสุราเรื้อรัง   ผู้ที่ดื่มสุราจัดและดื่มเป็นประจำทำให้ตับอ่อนเสื่อมสมรรถภาพได้



อาการของโรคเบาหวาน







        1.  ปัสสาวะบ่อยและมาก

        2.  กระหายน้ำมากและหิวบ่อย

        3.  กินจุแต่ผอมลง

       4. อ่อนเพลีย  ซึม

       5.  เป็นแผลหรือฝีง่ายแต่รักษายาก

       6.  ผื่นตามผิวหนัง   โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณอวัยวะเพศ

       7.   ปวด   เจ็บตามกล้ามเนื้อ   ชาตามปลายมือ  ปลายเท้า

       8.   ตามัว   พร่า   ต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อยๆ

       9.  หมดความรู้สึกทางเพศ

      10.  คลอดบุตรมีน้ำหนักมากกว่า 4 กิโลกรัม



อันตรายจากโรคแทรกซ้อน 


     โรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวานจัดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด   เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยจนถึงทุพพลภาพ  และเสียชีวิตได้ง่าย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน      ซึ่งทำให้เกิดความพิการต่อผิวหนัง  เหงือกและฟัน    ระบบประสาท  ระบบหัวใจหลอดเลือดและไต   นอกจากนี้ทำให้ความต้านทานโรคลดลง หรือ เสียไปอันตรายจากโรคเบาหวาน  พอสรุปได้ดังนี้

       - มีโอกาสที่นัยน์ตาจะบอดได้ถึง  25  เท่าของคนปกติ

                    - มีโอกาสเกิดโรคไตได้ถึง  17 เท่าของคนปกติ

                   - มีโอกาสเกิดโรคเท่าเน่าต้องตัดขาทิ้งถึง 5 เท่าของคนปกติ

                   - มีโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดจนกล้ามเนื้อหัวใจตายได้ถึง 2 เท่าของคนปกติ

           ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานที่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มเป็นโรคใหม่ๆ  และ สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติหรือใกล้เคียง  จะช่วยยับยั้งหรือลดความรุนแรงของอันตรายจากโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ให้ลดน้อยลงได้








การรักษาและการปฏิบัติตนของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

                 สิ่งสำคัญที่สุด  คือ  การควบคุมให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือใกล้เคียงกล่าวคือไม่สูงหรือต่ำเกินไปโดยอาศัยหลักปฏิบัติที่สำคัญ 7 ประการคือ

                 1.  อาหาร :  ระวังอย่ารับประทานมากเกินไป แต่ก็อย่าเว้นระยะห่างของมื้ออาหารนานมากเพราะน้ำตาลในเลือดอาจต่ำได้   ไม่ควรรับประทานน้ำตาล  น้ำหวาน  หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์   ควรหลีกเลี่ยงผลไม้หวานๆ  อาหารที่มีแป้ง  และไขมันมาก  รวมทั้งไขมันจากกะทิ  ไม่สูบบุหรี่  พยายามรับประทานอาหารที่มีใยหรือกากอาหารมากๆ

               2.   ยา :   รับประทานยาหรือฉีดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

               3.   การออกกำลังกาย  :  ควรกระทำอย่างสม่ำาเสมอ และพอเหมาะกับสภาพร่างกาย

               4.   เรียนรู้เรื่องโรคเบาหวาน  การป้องกันโรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ตลอดจนอาการที่เกิดขึ้นจากภาวะที่น้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป    ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงตาย








               5.   หมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือตา    เพราะผู้ป่วยมักมีสุขภาพตาเสื่อมลงเร็ว  และ บ่อยกว่าคนปกติทั่วไป และอาจบอดได้ถ้าไม่ระวังรักษาให้ดี

             6.     รักษาเท้าให้สะอาด    อย่าสวมรองเท้าที่คับ  ถ้ามีแผลที่เท้าต้องรีบทำการรักษาทันที

            7.       ควรมีบัตรหรือ สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ติดตัวอยู่ประจำ   เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจนหมดสติ  ไปผู้ที่พบเห็นจะได้ทำการช่วยเหลือหรือนำส่งแพทย์  เพื่อรักษาได้ถูกต้องและรวดเร็ว  และบางกรณีควรพกน้ำตาลก้อน  ท๊อฟฟี่หรือลูกกวาดติดตัวไว้   หากเกิดมีอาการใจสั่น  มือสั่น  มึนงง  วิงเวียนคล้ายจะเป็นลมเหงื่อออกมาก  หน้าซีด  ซึ่งเป็นอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมากเกินไป  จะได้หยิบรับประทานทันที   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น